1. ออสเทนนิติก (Austenitic Stainless Steel) – เกรด 300 และ 200
- คุณสมบัติ: ไม่เป็นแม่เหล็ก ทนการกัดกร่อนสูง ทนต่อสารเคมีและอุณหภูมิสูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสะอาดและทนทาน
- การใช้งาน: เครื่องครัว อุปกรณ์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรมอาหารและเคมี
- 304 – นิยมที่สุด ทนสนิมดี ใช้ทำเครื่องครัว อ่างล้างจาน
- 316 – ทนต่อสารเคมีและน้ำทะเล เหมาะกับอุตสาหกรรมทางทะเลและการแพทย์
- 201 & 202 – ราคาถูกกว่ากลุ่ม 300 แต่ทนสนิมน้อยกว่า
2. เฟอร์ริติก (Ferritic Stainless Steel) – เกรด 400
- คุณสมบัติ: เป็นแม่เหล็ก ทนความร้อนสูง ราคาประหยัดกว่าออสเทนนิติก เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป
- การใช้งาน: เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุตกแต่ง และอุตสาหกรรมยานยนต์
- 430 – ทนสนิมน้อยกว่า 304 แต่เหมาะสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าและงานตกแต่ง
- 409 – ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น ท่อไอเสีย
3. มาร์เทนซิติก (Martensitic Stainless Steel) – เกรด 400
- คุณสมบัติ: แข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกและการสึกหรอ แต่ทนสนิมได้น้อยกว่ากลุ่มอื่น
- การใช้งาน: มีด เครื่องมือแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์
- 410 – แข็งแรง ทนทาน ใช้ทำเครื่องมือแพทย์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์
- 420 – ใช้ทำใบมีด มีดโกน และอุปกรณ์ศัลยกรรม
4. ดูเพล็กซ์ (Duplex Stainless Steel) – เกรด 2205 และ 2507
- คุณสมบัติ: แข็งแรงกว่าสแตนเลสทั่วไป ทนการกัดกร่อนสูง ทนแรงดึงและแรงกดได้ดี
- การใช้งาน: งานโครงสร้าง อุตสาหกรรมเคมี โรงกลั่นน้ำมัน
- 2205 – แข็งแรงกว่าสแตนเลส 304 และ 316 เหมาะสำหรับโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนัก
- 2507 – ทนต่อสารเคมีรุนแรงและน้ำทะเล เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมหนัก
5. กลุ่มพิเศษ (Precipitation-Hardening Stainless Steel – PH Stainless Steel)
- คุณสมบัติ: แข็งแรงสูงมาก ทนแรงดึงดีเยี่ยม ทนการกัดกร่อน
- การใช้งาน: งานอวกาศ อุตสาหกรรมการบิน และอาวุธ
- 17-4 PH – ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน อาวุธ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์